Tuesday, May 19, 2009

ชาวชายแดนศรีสะเกษ 3 ตำบล ม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินรอบเขาวิหาร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2552 19:15 น.







ชาวบ้าน 3 ตำบล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ระบุเคยทำกินมาหลายชั่วอายุคนแต่ถูกจนท.ขับไล่ออกจากพื้นที่ วันนี้ (19 พ.ค.)




คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี แกนนำ


นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว แกนนำอีกคน




ศรีสะเกษ – ชาวบ้าน 3 ตำบล อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ระบุทำกินมานานหลายชั่วอายุคนแต่ถูกประกาศเขตอุทยานฯทับที่ดินทำกินและผลักดันขับไล่จากพื้นที่ แกนนำวอนรัฐจัดสรรที่ดินให้เข้าทำกินเลี้ยงครอบครัวไม่ต้องการเอกสารสิทธิ ขู่หากรัฐบาลไม่ตอบสนองระดมพลปิดล้อมที่ทำการอุทยานฯ ต่อสู้จนถึงที่สุด

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาประชาคม บ.ภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษได้มีชาวบ้าน จาก 3 ตำบล คือ ต.ภูผาหมอก ต.เสาธงชัย และ ต.โคกสะอาดประมาณ 300 คน นำโดย นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ และ นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.9 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษได้พากันมาชุมนุมปราศรัย เรียกร้องให้รัฐจัดสรรที่ดินตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้พากันบุกเบิกแผ้วถางป่าเข้าทำไร่ทำสวน ในที่ดินตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชารอบเขาพระวิหารมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว แต่ต่อมาปี 2541 ทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ประกาศเขตอุทยานฯ ทับที่ทำกินของชาวบ้านดังกล่าว และผลักดันออกจากพื้นที่ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน

นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แกนนำ กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของตนได้พาญาติพี่น้องเข้าไปบุกเบิกแผ้วถางป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านเฝ้าไร่ ทิศใต้อยู่ติดกับพลาญเขียดและทิศตะวันออกอติดกับห้วยตาขบ พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อปลูกปอ อ้อย มะม่วง นำเอาผลิตไปขายเลี้ยงครอบครัว แต่ต่อมา ปี 2541 ได้มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานห่างชาติเขาพระวิหารมาแจ้งให้ทราบว่า บริเวณที่พวกตนทำกินอยู่ เป็นเขตอุทยานฯ และได้ผลักดันให้ออกไปอยู่นอกเขตพื้นที่ หากใครไม่ยินยอมจะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกยึดเอาอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ในการทำไร่ ทำสวนทั้งหมด

ทางด้าน นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว อายุ 45 ปี แกนนำชาวบ้านอีกคนกล่าวว่า พวกตนและชาวบ้านทุกคนไม่มีที่ดินไปทำกินอีกแล้ว เพราะเคยทำกินในบริเวณชายแดนเขต 3 ตำบลที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาติดกับเขาพระวิหารมานาน เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ขับไล่ออกจากที่ดินทำกินทำให้พวกเราได้รับความเดือดร้อนมาก ซึ่งพวกตนไม่ต้องการเรียกร้องให้ได้เอกสารสิทธิที่ดิน แต่อย่างใด เพียงแค่ขอที่ดินทำกินตรงบริเวณเดิมที่เคยทำกินเลี้ยงชีพมานานหลายชั่วอายุคนเท่านั้น

“หากข้อเรียกร้องของพวกเราไม่ได้รับการตอบสนองจากทางราชการ จะรวมตัวกันไปประท้วงปิดล้อมที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อกดดันให้รัฐบาลได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนด้วยการให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในที่ดินเดิมของพวกเราอย่างถึงที่สุด” นายวิสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่ นายเดชา มีแยบ เจ้าพนักงานป่าไม้ ชำนาญงาน อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มาพบปะกับชาวบ้านเพื่อรับทราบข้อเรียกร้องและปัญหาความเดือดร้อน พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้เคยมายื่นหนังสือเรียกร้องขอที่ดินทำกินกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารซึ่งทางอุทยานฯได้เสนอหนังสือไปยังหน่วยเหนือเพื่อให้พิจารณาสั่งการต่อไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

“วันนี้จึงแจ้งให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและมาชุมนุม ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาสรุปข้อเรียกร้องเพื่อจะได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะรายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบเพื่อพิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป” นายเดชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า นายทองคำ นันทะวงษ์ แกนนำชาวบ้านผู้เดือดร้อน ได้นัดหมายกันเพื่อประชุมร่วมกันที่บ้านของกำนันตำบลเสาธงชัย เพื่อสรุปข้อเรียกร้องเสนอต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและยืนยันว่าจะร่วมกันต่อสู้เรื่องนี้อย่างถึงที่สุดจนกว่าทุกคนจะได้ที่ดินกลับคืนมาทำกินเช่นเดิมต่อไป

Labels:

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home