Thursday, May 28, 2009

แซบหลาย สไตล์อุบล ที่"ครัวคุณยายพวงแก้ว"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
28 พฤษภาคม 2552 10:59 น.

บรรยากาศร้านครัวคุณยายพวงแก้ว
ช่วงนี้ฟ้ารั่ว ฝนตกเฉอะแฉะน้ำเจิ่งนองไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เพราะหน้าฝนเริ่มย่างกรายเข้ามาเยือนแล้วไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ต้องพกร่มติดตัวกันเปียกฝนกันไว้ ไม่อย่างนั้นเกิดไม่สบายขึ้นมาจะเสียการเสียงานกันไปได้ แต่คนแข็งแรงและรักสุขภาพอย่าง "ตระเวนกิน" เราไม่ขอเจ็บป่วยง่ายๆ เพราะเราพกร่มติดกายเป็นประจำ แถมยังชอบสรรหาอาหารดีเพื่อสุขภาพมาบำรุงร่างกาย อย่างการไปหาอาหารเวียดนามที่มีแต่พืชผักสมุนไพรเพื่อสุขภาพกินกันดีกว่า

คุณเพ็ชร สุทธินานนท์ โชว์ลีลาการตำส้มตำ
สำหรับมื้อเพื่อสุขภาพที่ดีในมื้อนี้"ตระเวนกิน" เลือกที่จะมาเติมเต็มความอิ่มกับสุขภาพที่ดีกับอาหารเวียดนามกันที่ร้าน "ครัวคุณยายพวงแก้ว" เป็นร้านอาหารไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่กลับมีความน่าสนใจอยู่หลายอย่าง อันดับแรกแน่นอนว่าที่นี่มีอาหารเวียดนามที่เราอยากกินเป็นอาหารเด่นชูโรง แถมยังเป็นอาหารเวียดนามสไตล์เมืองอุบลราชธานี และอย่างที่สองที่นี่ยังมีเมนูอาหารอีสานรสแซบสไตล์อุบลเหมือนกัน ยังไม่หมดอย่างที่สามคอหารไทยมาที่นี่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะว่ามีอาหารไทยจานเด็ดอยู่หลายอย่างให้เลือกกินกันได้ตามใจปรารถนา เห็นหรือยังว่าที่ร้าน "ครัวคุณยายพวงแก้ว" มีอาหารนานาให้ได้อิ่มหนำ เอาเป็นว่าตามมาชิมและลิ้มรสกันดีกว่าว่าเมนูเด่นๆ ของที่นี่มีอะไรที่น่ากินบ้าง โดยในมื้อนี้เราขอเน้นที่อาหารเวียดนามเป็นหลัก ประเดิมเมนูแรกกันด้วย

แหนมเนือง
แหนมเนือง (80 / 120 บาท) ที่มีความโดดเด่นตรงหมูที่ทางร้านทำเองปั้นเองนึ่งและย่างด้วยเตาอบ และมาพร้อมเครื่องเคียงสารพัดทั้งเส้นขนมจีน มะม่วง แตงกวา กระเทียม กล้วยน้ำว้า พริกขี้หนู และที่ขาดไม่ได้น้ำจิ้มแหนมเนืองรสเด็ดที่ทางร้านปรุงเองแบบเข้มข้นและใส่งาขาวบดแทนการใส่ถั่วซึ่งเป็นสูตรเด็ดเฉพาะของอุบล ห่อแผ่นแป้งกับผักใส่หมูใส่เครื่องเคียงแล้วห่อเป็นคำ ส่งเคี้ยวเข้าปากเคี้ยวกร้วมคำโตหมูนุ่มรสกลมกล่อมเข้ากับเครื่องและผสานเข้ากับรสชาติน้ำจิ้มที่กลมกล่อมลิ้ม กินแนมกับผักสดมีทั้งผักแพว สะระแหน่ ผักกาดหอม และผักสดอื่นๆ อีกมากมายล้างสะอาดมาอย่างดี

ปอเปี๊ยะสด
หลังจากห่อแหนมเนืองกินไปหลายคำหันมากิน ปอเปี๊ยะสด (60 บาท) กันบ้าง เมนูนี้คือแผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดห่อผักแพว ผักติ้ว ผักชีฝรั่ง ใบโหระพา ใส่ข่าอ่อน ใส่เส้นหมี่ เส้นขนมจีน และข้างในมีไส้ให้เลือกอยู่ 2 ไส้ คือมีไส้ปอเปี๊ยะเวียดนาม ที่จะใส่หนังหมู และหมูทอดสับละเอียดลงไป กับอีกไส้เป็นไส้กุ้งสดลวก ห่อม้วนแล้วหั่นมาเป็นคำๆ จิ้มกินกับน้ำจิ้มแครอทใส่ถั่วเคี้ยวปอเปี๊ยะเต็มปากเต็มคำแป้งนุ่มได้รสชาติผักสมุนไพรเต็มที่ หอมกลิ่นโหระพาอยู่ในปากและได้รสชาติซ่านิดๆ จากข่าอ่อน

ข้าวเกรียบอ่อน
จากนั้นมาต่อกันที่เมนูขายดีเมนูนี้ ข้าวเกรียบอ่อน (60 บาท) เป็นแป้งข้าวเจ้านุ่มๆ ข้างในสอดไส้ต้นหอมและหมูสับปรุงรส ไส้อัดแน่นห่อม้วนมาเป็นตัวๆ แล้วโรยหน้าด้วยหอมเจียวทอดหอมๆ และหมูยอเนื้อ กินกับน้ำจิ้มน้ำเชื่อม แป้งนุ่มนิ่มเนียนไส้รสกลมกล่อมเข้มข้น กินกับน้ำจิ้มน้ำเชื่อมเพิ่มรสหวาน เปรี้ยว เจือเผ็ดนิดๆ

เส้นหมี่หมูทอด
แล้วมาเพลินปากกันต่อกับ เส้นหมี่หมูทอด (75 / 110 บาท) ตัวหมูเป็นหมูสามชั้นหมักเครื่องเทศหลายอย่างมีขมิ้นและผงกะหรี่ด้วย หมักนานกว่า 1 คืนจนเข้าเนื้อหมูแล้วจึงนำมาทอดจนสุก และสะเด็ดน้ำมันจนแห้ง เสิร์ฟมาพร้อมกับเส้นหมี่ขาวที่นำไปลวกจนสุกและนึ่งมาอีกที เคี้ยวหมูทอดนุ่มปากหอมกลิ่นผงกะหรี่อ่อนๆ กินคู่กับเส้นหมี่และราดด้วยน้ำจิ้มแครอทหวานๆ อมเปรี้ยวถูกปากดีนักเชียว

ส้มตำอุบล
ได้กินเมนูเวียดนามจานเด็ดไปหลายจานแล้ว หันมากินเมนูอีสานจานเด่นที่มาแล้วไม่ควรพลาดสั่งมาลองลิ้มเด็ดขาดนั่นคือ ส้มตำอุบล (45 บาท) เป็นส้มตำปูปลาร้าสไตล์อุบลแท้ๆ ที่ทางร้านใช้ปลาร้าเคี่ยวอย่างดี กลิ่นหอมได้ที่ และทีเด็ดอยู่ตรงที่จะมีกุ้งฝอยต้ม และเม็ดกระถินให้กินแนมเคี้ยวมันปากเป็นเครื่องเคียงกับส้มตำปูปลาร้ารสชาติจัดจ้าน

แกงเขียวหวานไก่โรตี
สุดท้ายขอปิดมื้ออิ่มกันที่อาหารไทยด้วย แกงเขียวหวานไก่โรตี (80 บาท) ที่เข้มข้นเครื่องแกงเขียวหวานเอามากๆ น้ำแกงหอม หวาน มัน ถึงเครื่องแกงเขียวหวานรสเผ็ดเข้ากันกับไก่เนื้อนุ่ม และกินคู่กับโรตีทอดกรอบเนื้อนุ่ม ขอบอกว่าช่างเข้ากันดีแท้ ที่เห็นๆ ว่ากินเมนูเด็ดไปก็หลายอย่างแล้ว แต่ขอบอกว่าในเมนูอาหารยังมีอาหารจานเด่นอีกมากมายที่ชวนสั่งให้มากินกันอีก อาทิ ยำไก่กรอบ (70 บาท) ลาบเห็ดออเรนจิ (70 บาท) ลาบทอด (70 บาท) หลนเค็มสับปะรดอุบล (70 บาท) ขนมเบื้อง (65 บาท) ขนมหวานก็มีวุ้นน้ำมะพร้าวอ่อน (5 ชิ้น 40 บาท 9 ชิ้น 70 บาท) และอีกสารพัดอาหารเวียดนาม-ไทย-อีสาน ที่สงสัยว่าต้องได้กลับมากินที่ร้าน "ครัวคุณยายพวงแก้ว"กันอีกในคราวหน้า
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * "ครัวคุณยายพวงแก้ว" ตั้งอยู่ที่ 91/2 ถ.ร่วมจิตต์ (ใกล้อาคารพีเอ็ม กรุ๊ป) แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางจากสี่แยกราชวัตร วิ่งตรงมาตามถ.นครไชยศรี ตรงมาจนถึงสี่แยกที่สองจะเห็นไปรษณีย์ดุสิตอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวขวาเข้าถ.ร่วมจิตต์ วิ่งตรงมาก็จะเห็นร้านครัวคุณยายพวงแก้ว อยู่ซ้ายมือริมถนน เปิดทุกวัน เวลา 09.30-20.00 น. มีบริการส่งถึงบ้าน (คิดค่าส่งตามระยะทาง) โทร. 0-2669-6016, 08-1620-4949, 08-1496-0499 คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ครัวคุณยายพวงแก้ว"

Monday, May 25, 2009

อุตฯบุรีรัมย์เร่งจัดระเบียบโรงงาน ก่อมลภาวะกระทบชุมชน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2552 22:45 น.


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

สมบูรณ์ มณีท่าโพธิ์ อุตฯ จ.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ - อุตสาหกรรมจ.บุรีรัมย์ เร่งจัดระเบียบมลภาวะโรงงานอุตฯ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน พร้อมสร้างเครือข่ายร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม หลังที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง น้ำเสีย และกลิ่น

นายสมบูรณ์ มณีท่าโพธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เร่งจัดระเบียบมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง น้ำเสีย และกลิ่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน เช่น โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังแกลบ โรงสีข้าว โรงงานสุรา โรงงานน้ำตาล โรงโม่หิน และโรงงานดูดทราย ที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกว่า 440 แห่ง พร้อมสร้างเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม

การนำเจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ประกอบการโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เข้ามาพูดคุยเสนอปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทภารกิจในการควบคุมดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้ด้านข้อกฎหมาย และศึกษาดูงานโรงงานต้นแบบที่มีระบบกำจัดมลภาวะผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย เพื่อนำไปปรับใช้ในสถานประกอบการของตนเอง โดยตั้งเป้าจะสร้างเครือข่ายให้ครบทุกอำเภอ เพื่อลดปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับมลภาวะที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชน

“ที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน จากโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลภาวะฝุ่นละอองมากที่สุด ซึ่งก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ พร้อมตรวจวัดปริมาณฝุ่นละออง พบเกินค่ามาตรฐานหลายแห่ง จึงได้ทำการตักเตือน และให้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว แต่หากพบว่าสถานประกอบการใดยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” นายสมบูรณ์ กล่าว

ทรัพยากรฯบุรีรัมย์ขู่ดำเนินคดีชาวบ้านบุกยึดป่าดงใหญ่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2552 19:44 น.



คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ชาวบ้าน 15 หมู่บ้าน ต.ลำนางรอง อ.อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ บุกศาลากลางฯ เรียกร้องขอเช่าที่ดินทำกินในเขตป่าดงใหญ่ ที่นายทุนหมดสัญญาเช่า หลายต่อหลายครั้ง




บุรีรัมย์ - ทรัพยากรฯบุรีรัมย์ ขู่ดำเนินการตาม กม.กับกลุ่มชาวบ้านบุกยึดพื้นที่ “ป่าดงใหญ่” อ.โนนดินแดง ก่อนได้รับอนุญาต พร้อมเตรียมลงพื้นที่รางวัดสอบเขตที่ดินที่เอกชนหมดสัญญาเช่ารวมกว่า 2.3 หมื่นไร่ ก่อนเสนอผู้ว่าฯ และกรมป่าไม้ พิจารณาจัดสรรให้ชาวบ้านไร้ที่ทำกินเช่า เผย ล่าสุดชาวบ้านส่งรายชื่อขอเช่าทำกันแล้วกว่า 1,000 ราย

วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ และ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จ.นครราชสีมา เตรียมลงพื้นที่รางวัดสอบเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 28 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนชาวบ้าน

ก่อนเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และอธิบดีกรมป่าไม้ พิจารณาจัดสรรให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกิน เข้าไปเช่าทำกินครึ่งหนึ่ง และให้บริษัทเอกชนเช่าทำประโยชน์ปลูกป่าเศรษฐกิจอีกครึ่งหนึ่ง ของพื้นที่ป่าที่หมดสัญญาสัมปทานจำนวน 9 แปลง รวมกว่า 23,000 ไร่ ตามมติสภา องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลำนางรอง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านในตำบลลำนางรอง 15 หมู่บ้าน ได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมรายชื่อ ขอเช่าพื้นที่ป่าดงใหญ่ ที่บริษัทเอกชนได้หมดสัญญาสัมปทานดังกล่าวแล้วหลายครั้ง

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติชาวบ้านที่จะเข้าไปเช่าพื้นที่ป่า จะมีการตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.และตัวแทนชาวบ้าน เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของชาวบ้านให้ชัดเจน โดยจะพิจารณาชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เป็นอันดับแรก รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่ไม่มีที่ทำกิน และมีฐานะยากจนจริงโดยจะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

นายนิรันดร์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน ม.1 และ ม.10 ต.ลำนางรอง เข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าดงใหญ่บางส่วนที่หมดสัมปทาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเจรจาให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ป่าดังกล่าวก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจรางวัด ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของรัฐที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ หากชาวบ้านยังฝ่าฝืนไม่ยอมออกจากป่า เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งก็จะเป็นผลเสียกับชาวบ้านเอง เพราะหากมีการดำเนินคดี หรือฟ้องร้องพื้นที่ดังกล่าวที่ชาวบ้านเข้าไปบุกยึด จะไม่สามารถขอเช่าทำประโยชน์ได้จนกว่าจะสิ้นสุดคดี

“ขณะนี้ได้มีชาวบ้านนำรายชื่อมายื่นขอเช่าพื้นที่ป่าดงใหญ่แล้วกว่า 1,140 ราย จากจำนวนชาวบ้านที่เคยร้องขอที่ทำกินมากกว่า 3,000 ราย ใน 15 หมู่บ้าน ของ ต.ลำนางรอง คาดว่าที่เหลือคงจะทยอยนำรายชื่อมายื่นเพิ่มเติมอีก ซึ่งทางคณะทำงานจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อป้องกันการรายชื่อซ้ำซ้อน และเพื่อให้ชาวบ้านที่ยากจนไร้ที่ทำกินได้เข้าไปเช่าทำกินในพื้นที่ดังกล่าวอย่างแท้จริง” นายนิรันดร์ กล่าว

Sunday, May 24, 2009

ศรีสะเกษค้านสร้างประสาทพระวิหารจำลอง

ศรีสะเกษค้านสร้างประสาทพระวิหารจำลอง



ศรีสะเกษค้านสร้างประสาทพระวิหารจำลอง (กรุงเทพธุรกิจ)

จากกรณีมีกระแสข่าวว่าจะมีภาคเอกชนมาลงทุนก่อสร้างประสาทพระวิหารจำลอง ที่บริเวณผามออีแดงให้ยิ่งใหญ่และเหมือนจริงกับปราสาทพระวิหารของกัมพูชานั้น

นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ศรีสะเกษ กล่าวว่า การสร้างปราสาทพระวิหารจำลองขึ้นมาใหม่ในฝั่งไทยนั้น อาจได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปราสาทพระวิหารของจริง เพราะปราสาทพระวิหารของจริงจะมีเสน่ห์อยู่ที่อายุการสร้างมานานหลายพันปีแล้ว แม้ว่าวันนี้ปราสาทพระวิหารจะเป็นเพียงซากปรักหักพัง แต่ความเก่าแก่ จะเป็นจุดดึงดูดให้อยากมาเที่ยวชมและต้องการศึกษาถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานของปราสาทเขาพระวิหาร

นายวิชิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลกัมพูชายึดถือแผนที่ของเขา และรวมเอาพื้นที่บริเวณผามออีแดงเป็นเขตแดนของเขาด้วย ดังนั้นหากเราสร้างปราสาทพระวิหารจำลองขึ้นมาอีก ก็อาจมีปัญหาด้านเขตแดนกับกัมพูชาอีก ตนจึงเห็นว่าสมควรที่จะแก้ปัญหาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนก่อน และหากจะสร้างปราสาทจำลองขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องศึกษาข้อดีข้อเสียให้ละเอียดก่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรจะทำการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์บริเวณผามออีแดงให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว มากกว่าที่จะไปสร้างปราสาทพระวิหารจำลองเลียนแบบของจริงขึ้นมาใหม่ ที่อยู่ใกล้ของจริง

ด้าน นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเห็นว่าหากจะมีใครเข้ามาสร้างความเจริญ และพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษนั้น ตนก็ยินดี แต่สำหรับการสร้างปราสาทพระวิหารจำลองนั้น ตนเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องศึกษารายละเอียดให้รอบด้านทั้งด้านปัญหาความมั่นคง ปัญหาสิ่งแวดล้อมตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งหากผลการศึกษาพบว่าไม่เกิดปัญหาอะไรแล้วก็คงจะสามารถสร้างปราสาทพระวิหารจำลองขึ้นมาได้

"ตอนนี้ยังให้ความเห็นไม่ได้ว่าสมควรสร้างหรือไม่ เพราะต้องศึกษารายละเอียดให้รอบด้านก่อน หลังจากนั้นผมจึงจะมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะสร้างปราสาทพระวิหารจำลองหรือไม่" ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าว

Tuesday, May 19, 2009

ชาวชายแดนศรีสะเกษ 3 ตำบล ม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินรอบเขาวิหาร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2552 19:15 น.







ชาวบ้าน 3 ตำบล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ระบุเคยทำกินมาหลายชั่วอายุคนแต่ถูกจนท.ขับไล่ออกจากพื้นที่ วันนี้ (19 พ.ค.)




คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี แกนนำ


นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว แกนนำอีกคน




ศรีสะเกษ – ชาวบ้าน 3 ตำบล อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ระบุทำกินมานานหลายชั่วอายุคนแต่ถูกประกาศเขตอุทยานฯทับที่ดินทำกินและผลักดันขับไล่จากพื้นที่ แกนนำวอนรัฐจัดสรรที่ดินให้เข้าทำกินเลี้ยงครอบครัวไม่ต้องการเอกสารสิทธิ ขู่หากรัฐบาลไม่ตอบสนองระดมพลปิดล้อมที่ทำการอุทยานฯ ต่อสู้จนถึงที่สุด

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาประชาคม บ.ภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษได้มีชาวบ้าน จาก 3 ตำบล คือ ต.ภูผาหมอก ต.เสาธงชัย และ ต.โคกสะอาดประมาณ 300 คน นำโดย นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ และ นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.9 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษได้พากันมาชุมนุมปราศรัย เรียกร้องให้รัฐจัดสรรที่ดินตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้พากันบุกเบิกแผ้วถางป่าเข้าทำไร่ทำสวน ในที่ดินตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชารอบเขาพระวิหารมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว แต่ต่อมาปี 2541 ทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ประกาศเขตอุทยานฯ ทับที่ทำกินของชาวบ้านดังกล่าว และผลักดันออกจากพื้นที่ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกิน

นายทองคำ นันทะวงษ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แกนนำ กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของตนได้พาญาติพี่น้องเข้าไปบุกเบิกแผ้วถางป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านเฝ้าไร่ ทิศใต้อยู่ติดกับพลาญเขียดและทิศตะวันออกอติดกับห้วยตาขบ พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อปลูกปอ อ้อย มะม่วง นำเอาผลิตไปขายเลี้ยงครอบครัว แต่ต่อมา ปี 2541 ได้มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานห่างชาติเขาพระวิหารมาแจ้งให้ทราบว่า บริเวณที่พวกตนทำกินอยู่ เป็นเขตอุทยานฯ และได้ผลักดันให้ออกไปอยู่นอกเขตพื้นที่ หากใครไม่ยินยอมจะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกยึดเอาอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ในการทำไร่ ทำสวนทั้งหมด

ทางด้าน นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว อายุ 45 ปี แกนนำชาวบ้านอีกคนกล่าวว่า พวกตนและชาวบ้านทุกคนไม่มีที่ดินไปทำกินอีกแล้ว เพราะเคยทำกินในบริเวณชายแดนเขต 3 ตำบลที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาติดกับเขาพระวิหารมานาน เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ขับไล่ออกจากที่ดินทำกินทำให้พวกเราได้รับความเดือดร้อนมาก ซึ่งพวกตนไม่ต้องการเรียกร้องให้ได้เอกสารสิทธิที่ดิน แต่อย่างใด เพียงแค่ขอที่ดินทำกินตรงบริเวณเดิมที่เคยทำกินเลี้ยงชีพมานานหลายชั่วอายุคนเท่านั้น

“หากข้อเรียกร้องของพวกเราไม่ได้รับการตอบสนองจากทางราชการ จะรวมตัวกันไปประท้วงปิดล้อมที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อกดดันให้รัฐบาลได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนด้วยการให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในที่ดินเดิมของพวกเราอย่างถึงที่สุด” นายวิสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่ นายเดชา มีแยบ เจ้าพนักงานป่าไม้ ชำนาญงาน อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มาพบปะกับชาวบ้านเพื่อรับทราบข้อเรียกร้องและปัญหาความเดือดร้อน พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้เคยมายื่นหนังสือเรียกร้องขอที่ดินทำกินกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารซึ่งทางอุทยานฯได้เสนอหนังสือไปยังหน่วยเหนือเพื่อให้พิจารณาสั่งการต่อไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

“วันนี้จึงแจ้งให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและมาชุมนุม ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาสรุปข้อเรียกร้องเพื่อจะได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะรายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบเพื่อพิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป” นายเดชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า นายทองคำ นันทะวงษ์ แกนนำชาวบ้านผู้เดือดร้อน ได้นัดหมายกันเพื่อประชุมร่วมกันที่บ้านของกำนันตำบลเสาธงชัย เพื่อสรุปข้อเรียกร้องเสนอต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและยืนยันว่าจะร่วมกันต่อสู้เรื่องนี้อย่างถึงที่สุดจนกว่าทุกคนจะได้ที่ดินกลับคืนมาทำกินเช่นเดิมต่อไป

Labels:


ตามรอยธรรม "หลวงปูมั่น" อิ่มบุญ อิ่มใจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2552 09:37 น.



หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน


หลายคนมักจะหันหน้าเข้าหาวัด ก็ต่อเมื่อยามที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ไปไหว้พระ สงบสติหาความสงบ เพิ่มความสบายใจ แต่เมื่อยามที่มีความสุขกายสบายใจ กลับไม่ชอบเข้าวัดไหว้พระทำบุญสักเท่าไหร่ อันที่จริงแล้วการเข้าวัด ทำบุญ ถือศีลภาวนานั้นเป็นเรื่องที่ดี ที่เราชาวพุทธซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนควรยึดถือปฏิบัติ และช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ดังนั้นทริปนี้ "ตะลอนเที่ยว" จึงขอหันหลังให้ทางโลกชั่วคราว แล้วหันหน้าเข้าหาทางธรรมไป"ตามรอยพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน" กับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

สำหรับหลวงปู่มั่นเป็นพระเกจิสายวิปัสสนากรรมฐานวัดป่า ซึ่งที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากอัตชีวประวัติ ระบุว่า ท่านเกิดในสกุลแก่นแก้ว เมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ 20 ม.ค. 2413 ที่บ้านคำบง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มีบิดาคือนายคำด้วง มารดาคือนางจันทร์

หลวงปู่มั่นมีบุคลิกลักษณะ ร่างเล็ก ผิวขาวแดง คล่องแคล่ว ว่องไว สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความประพฤติ อัธยาศัยเรียบร้อย ว่าง่ายสอนง่าย ชอบศึกษาธรรมะ



พระพุทธรูปแกะจากไม้ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดศรีอุบลรัตนาราม


อายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณรได้ 2 ปี ลาสิกขามาช่วยงานทางบ้าน พออายุ 22 ปีได้มาศึกษาธรรมที่วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี กับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล จากนั้นอายุ 24 ปี ได้บรรพชาอุปสมบทที่วัดศรีทอง จ.อุบลฯ แล้วท่านได้แสวงหาวิเวกบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่าง ๆ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เดินธุดงค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือระยะแรก 24 พรรษา บั้นปลายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 พรรษา ที่วัดป่าบ้านหนองผือ 5 พรรษา มรณะภาพ ปี 2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร รวมอายุ 80 ปี

เมื่อได้รู้ประวัติของหลวงปู่มั่นกันพอสมควรแล้ว เราเริ่มออกทัวร์ตามรอยหลวงปู่มั่นกันเลยดีกว่าเริ่มด้วยสถานที่แรก วัดศรีทอง หรือ วัดศรีอุบลรัตนาราม(อ.เมือง จ. อุบลราชธานี) เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นได้บรรพชาเป็นพระภิกษุ และได้รับการขนานนามมคธว่า "ภูริทัตโต" ที่แปลว่า "ผู้ให้ปัญญา ผู้แจกจ่ายความฉลาด"

วัดศรีทองมีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กทม. เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจ.อุบลราชธานี ที่มีความงามสง่าตามพุทธลักษณะอีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ศรีอุบลรัตนาราม ที่ภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุน่าสนใจไว้มากมาก อาทิ พระพุทธรูปแกะจากไม้ ตู้เก็บพระไตรปิฎกที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ตู้เก็บคัมภีร์ใบลาน บาตรและเชิงบาตรสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ฯลฯ



รูปหล่อ 5 บูรพาจารย์ประดิษฐานอยู่ภายในสิมที่วัดบูรพาราม


จากวัดศรีทองเราเดินทางมายัง วัดบูรพาราม (ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลฯ) วัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นท่านมาศึกษาวิปัสสนากับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สิม(โบสถ์) แบบทึบ หันหน้าสู่แม่น้ำมูล ก่อสร้างด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม ตัวฐานอาคารก่อด้วยอิฐถือปูน ผนังภายในเป็นไม้ระแนงฉาบดินเหนียวผสมน้ำ ฟาง และฉาบทับด้วยปูนขาว

ภายในมีรูปหล่อของ 5 บูรพาจารย์คือ พระอาจารย์สีทา ชัยเสโน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระญานวิศิษย์สิงห์ ขันตญาคโม และพระสิทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (สี ธัมมธโร) ให้ได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล



ศาลาอนุสรณ์สถานบ้านเกิด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


หลังเที่ยวชมวัดบูรพารามจนอิ่มใจแล้ว "ตะลอนเที่ยว"ออกเดินทางต่อไปยังบ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ณ บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลฯ เพื่อสักการะ อนุสรณ์สถานบ้านเกิดหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ภายในมีรูปหล่อหลวงปู่มั่นให้ได้กราบสักการระกัน

ตรงกันข้ามกับอนุสรณ์ฯหลวงปูมั่นเป็นที่ตั้งของ "วัดศรีบุญเรือง"หรือ"วัดบ้านคำบง" วัดที่หลวงปู่มั่นได้มาบรรพชาเป็นสามเณร วัดนี้มีอาคารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีการบรรจุพระอัฐิธาตุ และมีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่มั่น ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบเคารพบูชา



ถ้ำที่วัดภูหล่น ที่วิปัสสนากัมมัฎฐานของหลวงปู่มั่น


จากบ้านคำบง เราไปต่อยัง ภูหล่น หรือ วัดภูหล่น (ต.สงยาง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลฯ) สถานที่ที่หลวงปู่มั่นเริ่มฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่เสาร์เป็นที่แรก

ภูหล่น เป็นภูเขาขนาดย่อม มีต้นไม้ปกคลุมสลับกับโขดหินน้อยใหญ่ มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น ด้านบนมีลานหินกว้างมีถ้ำอยู่ 2 ถ้ำ ซึ่งพวกชาวบ้านช่วยขนหิน ดิน ขึ้นมาสร้างเป็นถ้ำเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและกันสัตว์ร้ายรบกวน มีถ้ำของหลวงปู่เสาร์ที่มีรอยเท้าเสือปรากฏอยู่ และถ้ำของหลวงปู่มั่นที่ท่านใช้ฝึกปฏิบัติวิปัสสนาธรรม และมีรูปหล่อองค์หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น และพระพุทธรูปให้ได้กราบไหว้เสริมมงคล



กุฏิหลวงปูที่วัดป่านาคนิมิตต์


หลังจากเดินชมถ้ำบนภูหล่นได้สักครู่ เราลงจากภูเดินทางข้ามจังหวัดสู่ วัดป่านาคนิมิตต์ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าบ้านนามน (บ้านนามน ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร) วัดนี้หลวงปู่มั่นเคยมาจำพรรษาปฏิบัติธรรม มีกุฏิที่ชาวบ้านจะสร้างกุฏิถวายแด่หลวงปู่มั่น แต่ไม่รู้จะสร้างที่ใดในตอนกลางคืนพญานาคมาทำรอยเอาไว้ให้เหมือนขุดหลุมเสา หลวงปู่มั่นก็ชี้บอกให้ชุดหลุมเสาตามรอยที่พญานาคทำไว้โดยไม่ต้องวัดหลุมเสาเลย แล้วหลวงปู่มั่นก็บอกกับโยมว่าวัดนี้ให้ชื่อว่าวัดป่านาคนิมิตต์

ภายในวัดมีศาสนสถานสำคัญคือ กุฏิหลวงปู่มั่นที่สร้างด้วยไม้ดูเงียบสงบ ภายในประดิษฐานรูปหล่อเหมือนเท่าองค์จริง อัฐบริขาร และภาพอริยาบทต่างๆขององค์ท่าน



รูปหล่อหลวงปู่มั่นและบริขารที่วัดป่าวิสุทธิธรรม


วัดป่าวิสุทธิธรรม หรือ วัดป่าบ้านโคก (บ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร) คือวัดต่อไปในการเดินทางครั้งนี้ สำหรับวัดแห่งนี้ท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ สร้างขึ้นให้หลวงปู่มั่นอยู่พำนักจำพรรษา ภายในวัดมีกุฏิหลวงปู่มั่น มีศาลาโรงธรรมที่ท่านใช้เป็นที่อบรมสานุศิษย์ ภายในศาลามีหุ่นขี้ผึ้งเหมือนองค์จริง มีอัฐบริขารที่ท่านเคยใช้แสดงอยู่ และยังมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่อุ่น กัลยาณธัมโม ภายในประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง อัฐิธาตุและอัฐบริขาร ให้ได้สักการะกันก่อนที่จะออกเดินทางไปยังวัดต่อไปที่รออยู่



พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าสุทธาวาส


จากนั้น“ตะลอนเที่ยว”เดินทางต่อไปยัง วัดป่าสุทธาวาส (ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร) วัดนี้มีความสำคัญกับหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวัดที่หลวงปู่มั่นเลือกที่ละสังขารที่นี่เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2492 เพราะหากตัวท่านต้องมรณภาพที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือนาใน จะต้องมีงานศพของท่านที่นั้น และชาวบ้านต้องฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมากเพื่อมาเลี้ยงพระและญาติโยมที่มางาน ด้วยความเมตตาสงสารสรรพสัตว์ ท่านจึงให้นำร่างที่ใกล้มรณภาพ มาไว้ที่วัดป่าสุทธาวาสและจัดงานพระราชทานเพลิงศพท่าน ณ ที่นี้ ต่อมาได้สร้างพระอุโบสถครอบตรงที่ถวายเพลิงท่านไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมา มาสักการะเป็นประจำ

ภายในวัดนี้มีสถานที่ที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ภายในเป็นประดิษฐานรูปหล่อเหมือนองค์จริงหลวงปู่มั่น และมีประวัติของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ มีอัฐิธาตุ อัฐบริขารและสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ประจำสมัยที่ยังมีชีวิต และมีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร เป็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์ที่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิธาตุอัฐบริขารหลวงปู่หลุย จันทสาโร ลูกศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่นภายหลังจากที่ท่านได้มรณภาพแล้วให้ประชาชนได้มากราบเคารพบูชา



กุฏิที่หลวงปู่มั่นเคยจำพรรษาที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส


ที่วัดป่าสุทธาวาสมีสิ่งให้ชมมากมาย จึงใช้เวลานานสักหน่อย ก่อนที่จะเดินทางไปต่อยัง วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หรือ วัดป่าบ้านหนองผือ (ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร) เป็นวัดที่หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร สร้างให้หลวงปู่มั่นจำพรรษา ตอนแรกให้ชื่อว่าวัดสันติวนาราม ต่อมาหลังจากหลวงปู่มั่น มรณภาพแล้ว พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโร) ได้เห็นถึงความสำคัญในสถานที่ที่หลวงปู่มั่นเคยพำนักจำพรรษาอยู่ถึง 5 ปีติดต่อกัน จึงดำริให้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เพื่อเชิดชูบูชาคุณให้สอดคล้องกับนามฉายาของท่านพระอาจารย์มั่น อันเป็นมงคลนามว่า วัดป่าภูริทัตตถิราวาส



วัดป่ากลางโนนภู่มีนิทรรศการชีวประวัติหลวงปู่มั่นให้ได้ชม


จากวัดป่าภูริทัตฯ จุดหมายต่อไปอยู่ที่ วัดป่ากลางโนนภู่ (บ้านกุดก้อม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร) วัดอันเป็นที่ตั้งของศาลาไม้ที่ใช้เป็นที่พักขณะที่หลวงปู่มั่นอาพาธก่อนจะมรณภาพ ภายในศาลามีรูปหล่อหลวงปู่มั่น มีพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุหลวงปู่มั่น แคร่ที่ใช้หามหลวงปู่มั่นมาจากวัดป่าบ้านหนองผือ กลด มุ้งกลด ที่นอน รวมทั้งสิ่งของที่ท่านเคยใช้เมื่อครั้งท่านอาพาธ และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับชีวประวัติหลวงปู่มั่น ภาพถ่ายต่างๆ ให้ได้ชมและศึกษาหาความรู้กัน



อัฐบริขารต่างๆ ของหลวงปู่มั่นมีให้ชมที่วัดป่าโนนนิเวศน์


แล้วเราก็มาปิดทริปทัวร์ตามรอยธรรมหลวงปู่มั่นกันที่ วัดป่าโนนนิเวศน์ (อ.เมือง จ.อุดรธานี) วัดนี้หลวงปู่มั่นมาจำพรรษาหลังจากกลับจากเชียงใหม่ โดยมาจำพรรษาอยู่ถึง 2 พรรษา ภายในวัดมีกุฏิจำลองของหลวงปู่มั่นให้ได้ชมกัน และยังมีวิหารหลวงปู่มั่น-หลวงปู่ภูมี ซึ่งในวิหารได้บรรจุรูปเหมือนหลวงปู่มั่น และหลวงปู่ภูมี ได้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้ขอพร แล้วยังมีอัฐบริขารบางส่วน ชีวประวัติของหลวงปู่ทั้งสองให้ได้ศึกษา และคำสอนต่างๆ ของหลวงปู่มั่นให้ได้จดจำนำไปปฏิบัติใช้ในประจำวัน ดำเนินชีวิตเจริญตามรอยธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต...สาธุ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผู้ที่สนใจท่องเที่ยว "ตามรอยพระอาจารย์ มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย โทร. 0-2247-2517-20 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โทร. 0-2270 1505-8 สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย โทร. 0-2998-0744 สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย โทร. 0-2246-5659

Labels:

Monday, May 18, 2009

Pheu Thai scrambling for a new leader
By The Nation


Pheu Thai MP Chalerm Yoobamrung on Tuesday said he was not in the race for party leadership, replacing Yongyuth Wichaidit who resigned on Monday. Chalerm made his remarks for the first time after making a trip to Dubai last week for talks with ex-premier Thaksin Shinawatra, seen as the behind-the-scene leader.


"I am not qualified for the job because of my character and outspokenness," he said in a deprecating gesture.


He suggested that Deputy House Speaker Apiwan Wiriyachai might suitable for the job.


Party sources said Thaksin already indicated that MP Somchai Phaetprasert had his blessing to become the party leader. Somchai is presently chairman of the House Committee on military affairs.

Doi Jong National Park









Doi Jong National Park is situated in the areas of Sob prab District, Thern District, and Mae-prik District of Lampang Province, and Li District of Lam-poon Province. The geographical features of the National Park consist of high mountains. Doi-jong is the highest mountaintop of the National Park (1,339 meters above the sea level) with beautiful scenery and various kinds of forests including mixed forests, arid evergreen forests, and pinery, and being the source of streams and rivers.

Topography
The topography of the National Park consist of small sized and large sized mountains, extending from the north to the southwest of the area. These mountains are the sources of many gullies flowing into Wang River (Wang River is the main river of Lampang Province and also being the water source for many reservoirs such as Mae-prab Reservoir, Huay Mae-poo Reservoir, Mae-yong Reservoir, etc.
In general, the topography of the area consist of stony mountains with decorative minerals, zinc, granite, and marble.

Climate
The climate in lower areas at foothills of the National Park is similar to other areas in the Northern Region of which the highest temperature is 43.1°C and the lowest temperature is 9.9°C. Meanwhile, temperatures on the mountaintops are lower than temperatures on flatlands of the National Park. The lowest temperature is 4°C and the average rainfall is 893.6 mm/year.

Flora and Fauna
There are various kinds of forests within the areas of the National Park, including timber forests, mixed deciduous forests, arid evergreen forests, and pinery.
Wild animals found in the National Park include Asiatic black bears, Muntiacus Muntjak, monkeys, wild boars, tree shrews, squirrels, mongooses, masked palm civets, birds, snakes, etc.

Thai firms aim to cut provident funds
By: NUNTAWUN POLKUAMDEE
Published: 19/05/2009 at 12:00 AM
Newspaper section: Business
A total of 229 companies held talks to close their provident funds or to reduce contributions due to financial stress in the first quarter, said the Association of Investment Management Companies.

The AIMC said in the first quarter, 36 companies with provident fund assets of 137.45 million baht closed their funds altogether, with another 21 companies holding talks to do so.

A total of 134 companies with provident fund assets of 2.3 billion baht held discussions about reducing contribution rates, with 24 companies with assets of 2.77 billion actually cutting contributions.

Overall, the AIMC said 229 companies with assets of 5.579 billion baht on behalf of 50,606 workers closed their funds, held discussions to do so or entered talks to change contribution rates.

As of the end of March, 519 provident funds were registered with the AIMC, with net assets of 471.3 billion baht on behalf of 10,028 companies and 2.06 million workers.

This compares with 514 funds and assets of 465.29 billion baht for 9,750 companies and 2.056 million workers at the end of 2008.

Araya Thirakomen, chairwoman of the Provident Fund Association, said the global financial crisis had affected the financial position of companies across the world, including Thailand.

Cutting labour costs, including provident fund contributions, is increasingly explored by firms under financial stress.

"Based on the first quarter figures, more companies are expected to look to halt contributions to provident funds," she said. "This of course will affect employees. If a fund temporarily cuts contributions or even moves to close, retirement savings will certainly be affected."

The phenomenon is not limited to Thailand, Mrs Araya said. In the US, 225 listed companies as of April 30 had requested temporary suspensions or reduced contributions to employee 401(k) pension programmes, including General Motors, Motorola, Federal Express, Coca-Cola, Consolidated and Starbucks.

Provident funds in Thailand are a key element of retirement savings. Funds are established voluntarily by companies, with contributions of 3% to 15% of worker income made equally by employers and employees. Contributions by individuals to provident funds of up to 15% of income with a limit of 500,000 baht are deductable from personal income tax liability.

Economics

Kobsak: Loan-decree ruling crucial
By: BangkokPost.com
Published: 19/05/2009 at 10:41 AM
Any decision by the Constitution Court to overrule the executive decree authorising the government to seek 400 billion baht in loans for urgent projects could have a serious effect on the country's economic recovery, Deputy Prime Minister Kobsak Sabhavasu warned on Tuesday.

Mr Kobsak, who oversees economic affairs, said if the court decides the decree is in violation of the constitution the government would have to draft a new decree urgently.

Such a ruling may affect the government's ability to address economic issues, he said, and may deter investors interested in doing businesses in the country.

Pheu Thai scrambling for a new leader
By The Nation


Pheu Thai MP Chalerm Yoobamrung on Tuesday said he was not in the race for party leadership, replacing Yongyuth Wichaidit who resigned on Monday. Chalerm made his remarks for the first time after making a trip to Dubai last week for talks with ex-premier Thaksin Shinawatra, seen as the behind-the-scene leader.


"I am not qualified for the job because of my character and outspokenness," he said in a deprecating gesture.


He suggested that Deputy House Speaker Apiwan Wiriyachai might suitable for the job.


Party sources said Thaksin already indicated that MP Somchai Phaetprasert had his blessing to become the party leader. Somchai is presently chairman of the House Committee on military affairs.

H1N1 poses dilemma for Hajj
By: AFP
Published: 18/05/2009 at 10:46 PM
Flu experts are casting a worried eye at the annual pilgrimage to Mecca, fearing that if swine influenza poses a threat six months from now, a health crisis would be massively complicated by the Hajj.

Specialists questioned at a major medical conference in Helsinki shuddered at the implications if a highly contagious, novel flu virus were unleashed at the world's biggest annual gathering.

In the grimmest scenarios, the pathogen would not only find easy pickings among the elderly, the weak and sick in Mecca -- it would also hitch a plane ride among pilgrims returning home and thus spread farther.

"Just imagine, you have a virus that starts to spread over the world, then you bring people together from all over the world, put them all together for a couple of weeks, then you take them out again,'' said Albert Osterhaus, a professor at the Erasmus Medical Centre at the University of Rotterdam in the Netherlands.

"If there's a mechanism by which you want to spread a virus, this is it.''

Last December, an estimated two and a half million worshippers travelled to Islam's holiest site for the three-day fulfillment of their faith. This year's pilgrimage takes place November 25-28.

In interviews with AFP at the European Congress of Clinical Microbiology and Infectious Diseases (ECCMID), Osterhaus and other specialists cautioned against alarmism, but urged Hajj organisers to start formulating response plans.

"The Hajj will take place, it's not like one of those things which is like a Pink Floyd concert, and you say, 'we don't need the concert'. This event will go through, that's for sure,'' said Andreas Voess, professor of Radboud University Nijmegen Medical Centre in the Netherlands.

"I believe that the health authorities there, with the help of the WHO and others, would need to look at what do we do, what do we advise people... they have to be prepared and they have to start thinking about what to do now and not when they have got the first pilgrimage victim with influenza.''

He added: "It is something that has to be looked at, it really does.''

Since influenza (A)H1N1 swine flu leapt into the spotlight on April 24, nearly 8,500 people have fallen sick, according to the UN's World Health Organisation (WHO).

Thai shares open 2.16 per cent higher



Used Car from Thailand
Great news for importers + dealers! Wide range of Thailand stocks.
www.tradecarview.com


Thai stocks gained 11.69 points or 2.16 per cent when the market was open for trading Tuesday morning.

The composite index of the Stock Exchange of Thailand rose to 551.91 at 10:01 am with a trading value of Bt2.496 billion.

The blue-chip SET50 rose 9.54 points or 2.48 per cent to 394.18.

The Nation

Labels:

Bordering on the Kampuchean boundary, Surin today is well- known for its annual Elephant Show, which usually takes place in the third week of November and attracts visitors from all over the world. It is 457 kilometers from Bangkok.


SURIN's ATTRACTIONS


Basketry Village, Ban Buthom 14 kilometers from the province on the I Highway 226 (Satin - Sikhoraphum route) the village produces rattan baskets of various types. Basketry shops line both sides of the road.

Presat Sikhoraphum is located at Amphoe Sikhoraphum about 55 kilometers from Surin. It is composed of five prang (pagoda, with the principal structure measuring 32 meters high. Beautiful designs are engraved onto the columns. It is believed that the site had been renovated once during the Ayutthaya Period.

Silverware Villages, Ban Khwao Sinarin and Ban Chok located on Highway 2l/1 (Satin - Chom Phra Route) with a 4 kilometers right turn between Km. l 4 - 15, the villages produce and put on sale assorted silver ornaments such as belts, necklaces, bracelets, rings, earrings, and watches. A large number of silverware shops line both sides of the road.

Prasat Hin Chom Phra small stone castle in Amphoe Chow Phra about 28 kilometers from Surin town, probably used to be an idol temple built by the Khmer. Today a large Buddha image is enshrined in front of the structure.

Elephant Village Many elephants can he found at Ban Ta Klang, Tambon Krapho, Amphora Tha Tum. The villagers here earn their living by firming and wea ving, they also keep elephants as pet. The elephants here are treated like friends and haw been trained well by their mahouts. Every third weekend of November there will he the famous Elephant Show in Surin and many smart elephants participating in the show are from Ban Tha Kiang.

Prasat Hin Ban Phluang situated at Amphoe Prasat, is a little over thirty kilometers from Surin proper. Although comparatively small in size, it is nevertheless beautiful and recently renovated

Surin Elephant Show is held in the third weekend of November. Internationally famous, this annual event brings crowds of visitors to the provincial capital of Surin, where over 100 trained elephants are assembled. Among the spectacular features are wild elephant hunts, tugs of war, demonstrations of log hauling skills, and a parade of elephants outfitted for medieval warfare.

http://www.hotelthailand.com/travelinfo/northeast/surin.html

Amnat Charoen, 583 kilometres from Bangkok, is a newly establiched province upgraded from amphoe Amnat Charoen of Ubon Ratchathani Province in 1993. Known as the Land of Dharma, Amnat Charoen is famous For its scenic view especially where the Khong River forms the borderline.


AMNAT CHAROEN 's ATTRACTIONS


Phra Mongkhon Ming Muang and Phuttha Utthayan Khao Dan Phra Bat is located 3 kilometres from town on the left-hand side of Highway 212. A Buddhist sanctuary built amidst green trees houses a Buddha image in the attitude of Subduing Mara decorated with golden mosaic tiles, designed by Chit Buabut cast in 1965. It is a very beautiful Buddha image.

Phuttha Utthayan Reservoir Three kilometers away from town, this huge reservoir under the Irrigation Department offers a beautiful scenery. It is an ideal place to visit with resorts and food shops scattered all around.

Wat Tham Saeng Phet is a meditation sanctuary, the school of Phra Achan Cha Suphattho, the late abbot of Wat Nong Pa Phong in Ubon Ratchathani. It is about 10 kilometres from town, on Amnat Charoen-Khemmarat Road and two kilometres on a side road before the end of the highway. The large temple area consists of the hilltop chapel with a principal Buddha image. The temple is set amidst rocks which reflect the light and sparkle like diamonds. Monks of different nationalities come here for meditation.

Wat Phra Lao Thep Nimit is on Highway 209 about 2 Kilometres from Amphoe I'hana centre. It is in old temple. Phra Lao Thep Nimit, an ancient Buddha image, is housed in the beautiftil ordination hall built in authentic Northeasetern style. The ordination hall is about 200 years old. The principal sacred Buddha image, in the attitude of Subduing Mara is lacquered and gilded.

Don Chao Pu Forest Park is a dense forest near Amphoe Phana with many kinds of trees that are over 100 years old. This shady and quiet forest in the habitat of a large number of monkeys.

from http://www.hotelthailand.com/travelinfo/northeast/amnatcharoen.html

Labels:

Ubon Ratchathani - Gateway To Laos
UBON RATCHATHANI's ATTRACTIONS
Wat Thung Si Muang is renowned for its traditional wooden Ho Trai scripture repository, with an intricately carved gable, in the middle of a pond. The monastic hall of Wat Thung Si Muang houses beautiful mural paintings depicting episodes from Buddhist literature and scenes of local everyday life.
Ubon Ratchathani National Museum once the province's City Hall, puts on exhibition the province's history, geological features of the Northeast, discovered artifacts, and local handiworks like basketry, brass, traditional hand-woven fabric, and local musical instruments. The museum is open daily except for Mondays and tuesdays.
Wat Nong Bua located on the suburb of town on the way to Amnat Charoen province. It is the only Buddhist monastery in the country with a Buddhagaya - style stupa,and has an extensive structure. Within the Stupa are several important Buddha images.
Wat Maha Wanaram the ancient and principal temple of Ubon, houses the sacred Phra Chao Yai Indra Plang image, highly venerated by both the people of Ubon and neighboring provinces.
Wat Supattanaram the first Buddhist monastery of the Dharmanyuthi sect in Northeastern Thailand, is situated on the hank of the Mun River not too far from town center. Built in 1853 with an initial royal donation by King Rama IV, it has as its principal image the Phra Sapphanyu Chao which is greatly revered by both local people and visitors alike.
Ban Kan Luang Archaeological Site five kilometers away from town along Highway 212 and 2050, the site was excavated by the Fine Arts Department in 1992. Discoveries include artifact, implements, ornaments, heads, pottery, and iron axes. It is believed chat this settlement dates back at least 2,000 years.
Wat Pa Nanachat some 15 kilometers from the province on Ubon - Si Sa Ket route, the Wat is renowned for its meditation affairs with a large number of foreign monks practising there.
Kaeng Saphu rapids south of Amphoe Phibun Mangsahan market, 45 kilometers from Ubon. Splashing currents during dry season make a beautiful scene over rocks and outcrops, although they are completely immersed during the high -tide season.
Sirindhorn Dam one of the major multi - purpose dams in the Northeast is around seventy kilometers from town in Amphoe Phibun Mangsahan. It is capable of producing 36,000 kilowatts or an annual 13.E million units of eletricity.
Khong Chiam is a district overlooking the Mekhong River and is located 80 kilometers from Ubon Ratchathani. A hired boat is available here to go to Kaeng Tana cataract and to go sightseeing at Mae Nam Song Si or the bicolour river where the Mekhong and Mun Rivers meet.
Kaeng Tana National Park is located in Amphoe Khong Chiam, 13 kilometers off Highway No. 217 opposite the entrance of the side - road to Sirindhorn Dam. There is accommodation for tourists. Attrations in the park include:
Kaeng Tana is the largest rapids of the Mun River. The cataract itself is a big stone platform lying across the Mun River, causing the water which flows through Kaeng Tana to take the form of beautiful waterfalls.
Nam Tok Tat Ton is created from Tat Ton brook flowing past a stone platform and plunging onto the plain forming a basin large enough to swim in. The area is surrounded by a forest and flowering shrubs.
Pha Taem National Park is located l4 kilometers from Amphoe Khong Chiam. Attractions in the park include:
Sao Chaling 11 kilometers from Amphoe Khong Chiam on the Highway 2112, the place is scattered with natural mushroom- like piles of stone slabs with a large amount of shells stuck in their texture. The area is believed by geologists to he a long dried sea.
Pha Taem and Pha Mon located 3 kilometers beyond Sao Chaliang, the Pha Taem and Pha Mon are two steep cliffs overlooking Mekong river with a clear view of Laos on the other side. On the cliffs' surface, there are prehistoric paintings dating hack to 3,000-4,000 years ago reflecting ancient ways of life of the people once lived in the area, such as Buk fishing (BA is a species of large scaleless fish found in the Mekong river), and rice farming. Figures of people. animals, hands and geometric designs were also depicted.
Phu Lon Buddhist Center is in Tampon Song Yang, about 20 kilometers from Amphoe Muang Mai. It is a small hill with trees and rocks. There is a cave built by Phra Achan Man I'll urithattathera; it is very tranquil and suitable for relaxation and meditation.
Candle Festival held annually at the beginning of Buddhist Lent in July at Thung Si Muang, the festival's planned activites include the competition of the candle "tree" which is divided into moulded and carved categories. All candle "trees" will he brightened up by the lights from many diverse entertainments organized to celebrate them.

TOUR PRANGKU
สถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอปรางค์กู่

ปราสาทปรางค์กู่
ตั้งอยู่ที่บ้านกู่ อยู่ห่างจากศรีสะเกษเป็นระยะทาง ประมาณ 70 กม. สามารถเดินทางเข้าถึงได้สองเส้นทางคือ ใช้เส้นทางศรีสะเกษ-สุรินทร์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง 2234 หรือใช้เส้นทาง ศรีสะเกษ-ขุขันธ์ แล้วแยกขวาเข้าเส้นทาง 2167 ปรางค์กู่อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 10 กม. ปรางค์องค์นี้สร้างด้วยอิฐเรียงแผ่นโตๆ เหมือนปราสาทศรีขรภูมิที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นศาสนสถานสมัยขอมที่เก่าแก่มาก มีอายุกว่าพันปีมาแล้ว ด้านหน้าปรางค์กู่มีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นทำเลพักหากินของนกเป็ดน้ำ ซึ่งมีมากในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
ปราสาทหินบ้านสมอ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลสมอ อำเภอปรางค์กู่ ห่างจากปราสาทปรางค์กู่มาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 10 กม. มีลักษณะคล้ายปราสาทหินวัดสระกำแพงน้อยที่อำเภออุทุมพรพิสัยเป็นปราสาทขอมโบราณขนาดเล็กล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง ขนาดกว้าง 25 เมตร ยาว 35 เมตร ประกอบด้วยปรางค์ศิลาแลงเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม บนประตูหลอกด้านทิศใต้มีทับหลังศิลาจำหลักลวดลายค้างอยู่ ภายในองค์ปรางค์มีรูปประติมากรรมศิลา นอกกำแพงมีการค้นพบสระโบราณอยู่สองแห่ง
ปราสาทตาเล็ง
ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 บ้านปราสาท ตำบลกันทรารมย์ การเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ตามทางหลวงสาย 220 จนถึงอำเภอขุขันธ์เลี้ยวขวาผ่านสถานีตำรวจไป 3 กม. ถึงสามแยกเลี้ยวซ้าย 300 เมตร แล้วเลี้ยวขวาตรงไปอีกประมาณ 16 กม. ปราสาทตาเล็งลักษณะเป็นปรางค์องค์เดียวตั้งอยู่บนฐานองค์ปรางค์มีผนังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสองหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปัจจุบันเหลือเพียงผนังด้านหน้าและผนังด้านข้างบางส่วน มีประตูเข้าได้เพียงประตูเดียวด้านหน้า อีกสามด้านเป็นประตูหลอก ที่สำคัญคือเสาติดผนังของประตูหน้าทั้งสองข้างยังคงมีลวดลายก้านขดสลักเต็มแผ่นอย่างสวยงาม สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17
อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา
ตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกตาล ห่างจากตัวอำเภอขุขันธ์ไปตามทางหลวงหมายเลข 2157 ประมาณ 21 กม.เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาพนมดงรัก นอกจากนี้ตามเส้นทางห้วยศาลา-หมู่บ้านโอดราวยังเป็นเส้นทางที่เหมาะแก่การขับรถชมทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำที่สวยงามอีกด้วย
Favorite Sites
DOWNLOAD โปรแกรมต่างๆ
โหลดโปรแรมต่างได้ฟรีคับที่นี้ ไม่ว่าจะเป็น Freeware หรือโปรแกรมทดลองใช้งาน Expert guidance from real people searching for the best the Internet has to offer in games, free stuff, books, news, chat, strategy, auctions, airlines, gifts, weather, links, cds, movies, and more.
CitySearch.com
A leading local portal and transactions company that provides in-depth local content and services to help people "get things done" online.
CNN
อ่านข่าวต่างๆได้ทั่วโลกกับสำนักข่าว CNN ครับ Be sure to place a description of your link for your viewers here!
eOnline
E! Online. Entertainment's home page.
Nasdaq
Nasdaq Stock Market Information
โหลดฟรี MP3
โหลดฟรีเพลง MP3 เพลงสากลที่ฮิตติดชาร์ตต้องคลิกเลยที่นี้ สำหรับคอเพลงต่างประเทศครับ Largest collection of free MP3s to play or download, free MP3 software
Baby Center
BabyCenter Store--content and quality products--You name it, we have it.

Search Engines
AltaVista
You know us as the Internet's original search engine.
Lycos
One of the most visited hubs on the Internet, reaching one out of every two Web users.
ฟรีเมล์ Yahoo!
ฟรีเมล์กับ www.yahoo.com ด้วยมีคนใช้มากกว่า25,000 ล้านคน With over half a million sites, divided into more than 25,000 categories, Yahoo! is both browseable and searchable.
InfoSeek
GO Network is a new brand that brings together the very best of the Internet in one, easy-to-use place.
Have Fun!

MUEANG SISAKET
สถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอเมืองศรีสะเกษ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ตั้งอยู่ที่สี่แยกถนนเทพาตัดกับถนนหลักเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดเพียงเล็กน้อย เดิมมีสภาพชำรุดทรุดโทรมไม่เหมาะแก่การประกอบพิธีกรรม ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ทางจังหวัดจึงได้ก่อสร้างศาลหลักเมืองขึ้นใหม่ ลักษณะเป็นแบบจตุรมุข ประดับด้วยหินอ่อนและกระจกสีอย่างงดงามเสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ลักษณะเสาหัวเม็ดทรงมัณฑ์ นับเป็นศาลหลักเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย
วัดมหาพุทธาราม
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีสะเกษ มีวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน"หลวงพ่อโต" ชึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของชาวศรีสะเกษ
สวนสมเด็จศรีนครินทร์
ตั้งอยู่ในวิทยาลัยเกษตรกรรม จังหวัดศรีสะเกษ ถนนกสิกรรม ตำบลหนองครก ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 2 กม. มีเนื้อที่ 237 ไร่ ลักษณะเป็นสวนป่าในเขตเมือง มีต้นลำดวนขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นดงใหญ่ เหมาะแก่การทัศนศึกษาในเชิงพฤกษศาสตร์ ต้นลำดวนซึ่งมีจำนวนกว่าสี่หมื่นต้นนี้จะผลิดอกหอมอบอวลไปทั่วในราวเดือนมีนาคมของทุกปี และเนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับชื่อ ศรีนครลำดวน ในอดีด จึงได้นำเอาต้นลำดวนมาเป็นสัญญลักษณ์ของจังหวัด นอกจากนี้มีพื้นที่ซึ่งจัดเป็นสวนสาธารณะ มีบึงน้ำสำหรับพายเรือเล่นและพักผ่อนหย่อนใจ
สวนสัตว์องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(สวนสัตว์ราษฎร์ประเสริฐอนุสรณ์) อยู่ในบริเวณสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ ร.9 โนนหนองกว้าง ตำบลน้ำคำ ห่างจากศาลากลางจังหวัดราว 4 กม.ตามเส้นทางสายศรีสะเกษ-อำเภอยางชุมน้อย เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ในบริเวณมีสัตว์ป่าหลายชนิด ให้ชมและมีหนองน้ำขนาดใหญ่สำหรับแข่งเรือพายและศาลาริมน้ำสำหรับพักผ่อน
พระธาตุเรืองรอง
ตั้งอยู่ที่บ้านสร้างเรือง ตำบลหญ้าปล้อง ห่างจากเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 2373 สายศรีสะเกษ-ยางชุมน้อย ประมาณ 7.5 กม. เป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นโดยผสมศิลปอีสานใต้ สี่เผ่าไทย ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร เยอ มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว พระธาตุมีความสูง 49 เมตร แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ชั้นล่างสุดใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ชั้นที่สองและสามเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านสี่เผ่าไทย ชั้นที่สี่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ชั้นที่ห้าใช้สำหรับการทำสมาธิ และชั้นที่หกเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและจุดชมทัศนียภาพของพื้นที่โดยรอบ
Favorite Sites
About.com
Expert guidance from real people searching for the best the Internet has to offer in games, music, travel, maps, jobs, free stuff, books, news, chat, strategy, auctions, airlines, gifts, weather, links, cds, movies, and more.
CitySearch.com
A leading local portal and transactions company that provides in-depth local content and services to help people "get things done" online.ค้นหาที่ตั้งเมืองน่ะคับ ลองเข้ามาดูน่ะคับ
ข่าว CNN
อ่านข่าวทั่วโลกพร้อมดูวีดีโอประกอบจากสำนักข่าว www.cnn.com จะไท่พลาดแม้ว่าเป็นข่าวที่ผ่านมาแล้วหลายวันเพราะอ่านย้อนหลังได้ sure to place a description of your link for your viewers here!
eOnline
E! Online. Entertainment's home page.
Nasdaq
Nasdaq Stock Market Information
MP3
Largest collection of free MP3s to play or download, free MP3 โหลด MP3 ฟรีเป็นเพลงสากลน่ะคับที่ขึ้น TOPHIT โหลดฟรีไม่เสียค่าบริการคับ www.mp3shits.com ขอบอกน่ะคับ

Search Engines
AltaVista
You know us as the Internet's original search engine.
Lycos
One of the most visited hubs on the Internet, reaching one out of every two Web users.
Yahoo!
ฟรีเมล์กับ www.yahoo.com with over half a million sites, divided into more than 25,000 categories, Yahoo! is both browseable and searchable.เวปที่มีคนใช้อีเมล์มาก
InfoSeek
GO Network is a new brand that brings together the very best of the Internet in one, easy-to-use place.

Labels:

TOUR KANTHARALAK
สถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอกันทรลักษ์
ปรางค์ศิลาช่องเขาโดนตวล
ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชัน บนเทือกเขาพนมดงรัก ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ห่างจากบ้านภูมิซรอลไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 8 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวอำเภอกันทรลักษ์ประมาณ 38 กิโลเมตร เป็นปราสาทขอมโบราณขนาดเล็ก ประกอบด้วยปรางค์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุม ก่อด้วยอิฐ ซุ้มประตูก่อด้วยศิลา และมีรูปสิงโตจำหลักอยู่หน้าปราสาท
ผามออีแดง
ตั้งอยู่ปลายสุดของทางหลวงหมายเลข 221 ห่างจากอำเภอกันทรลักษ์ลงไปทางใต้ 36 กิโลเมตรบริเวณนี้มีลักษณะเป็นลานหินธรรมชาติริมหน้าผาสูง ติดเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นจุดชมทัศนียภาพทิวเขาพนมดงรัก แผ่นดินเขมรต่ำ และสามารถมองเห็นปราสาทเขาพระวิหารซึ่งอยู่ห่างออกไป 1 กิโลเมตร บริเวณผามออีแดงมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก และทางด้านทิศใต้ซึ่งเป็นหน้าผาที่อยู่ต่ำลงไปมีภาพสลักหินนูนต่ำศิลปะเขมรอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15 สันนิษฐานว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
Favorite Sites
ฟรีเมล์ hotmail.com
ฟรีเมล์กับ www.hotmail.com ให้บริการฟรีเมล์ MSN อ่านข่าวต่างๆ Expert guidance from real people searching for the best the Internet has to offer in games, music, travel, maps, jobs, free stuff, books, news, chat, strategy, auctions, airlines, gifts, weather, links, cds, movies, and more.
CitySearch.com
A leading local portal and transactions company that provides in-depth local content and services to help people "get things done" online.
CNN
Be sure to place a description of your link for your viewers here!
eOnline
E! Online. Entertainment's home page.
Nasdaq
Nasdaq Stock Market Information
โหลดฟรี MP3
โหลดเพลงสากล MP3 ฟรีที่นี้น่ะคับ รับรองคนที่ชอบเพลงสากลไม่ควรพลาดเลยกับของดีๆแบบนี้และฟรีด้วยน่ะคับLargest collection of free MP3s to play or download, free MP3 software
Baby Center
BabyCenter Store--content and quality products--You name it, we have it.

Search Engines
AltaVista
You know us as the Internet's original search engine.
Lycos
One of the most visited hubs on the Internet, reaching one out of every two Web users.
ฟรีเมล์กับ Yahoo!
With over half a million sites, divided into more than 25,000 categories, Yahoo! is both browseable and searchable.
InfoSeek
GO Network is a new brand that brings together the very best of the Internet in one, easy-to-use place.

Labels: